เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๓ ก.ย. ๒๕๖๒

เทศน์เช้า วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒

พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต


ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี


ตั้งใจฟังธรรมะ ไอ้นั่นเป็นเรื่องของเด็ก เรื่องของผู้ใหญ่ เรื่องของผู้ใหญ่ เราเติบโตมาแล้ว เราเติบโตมาเราต้องมีสติปัญญาเพื่อรักษาชีวิตของเรา ถ้ารักษาชีวิตของเรา ทุกคนปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์

ถ้าปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์ ทางโลกเขาให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ให้ครอบครัวเราอบอุ่น ให้ในครอบครัวเราพูดกันรู้เรื่อง นี่เป็นบุญกุศลมากนะ ถ้าครอบครัวทำงานเสร็จแล้วอยากกลับบ้าน มันเป็นห่วงนะ เป็นห่วง เป็นอาลัยอาวรณ์ ต้องกลับบ้าน

แต่ถ้าบางครอบครัว เราเห็นมากเวลาเป็นข่าว ทำงานเสร็จแล้วไม่อยากกลับบ้าน จะหาที่ไหนก็ได้ เพราะว่ามันกลับบ้านไปแล้วมันมีแต่ความทุกข์ไง กลับบ้านไปแล้วมันมีแต่ความบีบคั้นน่ะ

เราปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์ แม้แต่ในครอบครัวของเรา ถ้าเจรจากัน คุยกันรู้เรื่อง มันจะเป็นความสุขของเรา แต่ถ้ามันมีความขัดแย้งๆ ถ้าเป็นพ่อแม่ที่ดี พ่อแม่ที่ดี เวลาลูกเล็กๆ ๓ ขวบ ๔ ขวบ ได้กอดลูกหรือยัง เพราะตอนนี้มันจะพัฒนาสมองของมัน แต่เวลามันโตเป็นวัยรุ่นนะ ต้องฟังมันแล้ว

พ่อแม่ที่ดีนะ เขาจะอ่อนน้อมอ่อนโยนไปตามลูกเขา ไม่มีการโต้แย้ง ไม่มีการให้มันเป็นปัญหาขึ้นมา

เวลาเด็กน้อยเราสอนมันทั้งนั้นน่ะ เพราะอะไร เพราะมันไปไหนไม่รอดหรอก มันวิ่งมาแบมือๆ มันเอาทั้งนั้นน่ะ แต่เวลามันโตขึ้นมาแล้ว พ่อแม่มันไม่ฟังหรอก มันฟังเพื่อนมัน เพื่อนมันบอกว่าพ่อแม่เป็นไดโนเสาร์ เรานี่ผู้ฉลาด เรามาปรึกษากันดีกว่า นี่เวลามันโตขึ้นมา

ถ้าคนที่ฉลาด เราก็เป็นวัยรุ่นมาก่อน เราเกิดมาเป็นมนุษย์นะ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เราเกิดมามีพ่อมีแม่ พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาอย่างใด เราโตขึ้นมา เราเองเราเคยผ่านประสบการณ์นั้นมา นี่เราควรเข้าใจ ถ้าเป็นพ่อเป็นแม่ไง

ถ้าเป็นพ่อเป็นแม่ เกิดในประเทศอันสมควร เกิดในพ่อแม่ที่ดีงาม พ่อแม่ที่ดีงามนะ อนาถบิณฑิกเศรษฐี เวลาลูกชาย จ้างเลย จ้างให้ไปวัด พอไปวัดเสร็จแล้วจ้างให้จำคำเทศน์มา

เวลาจ้างให้ไปวัดก็ไปวัดก่อน พอไปวัดก่อนนะ พัฒนาขึ้น ให้ฟังมาว่าพระพุทธเจ้าสอนเรื่องอะไร แล้วให้ตังค์เพิ่มมากขึ้น เขาจ้างเขาวานกันเพื่อให้ไปสู่ความเป็นคนดีๆ ไง

ถ้าเป็นคนดีนะ คนดีมันอยู่ที่เวรที่กรรม

เวลาเด็กน้อยนะ เวลามันประชดประชัน มันต้องการความอบอุ่น เวลาต้องการความอบอุ่นนะ แล้วมันดูพี่ดูน้อง ถ้าพ่อแม่ไปโอ๋ใครมากกว่า มันก็มีความคิดแล้ว แต่พ่อแม่ก็มีความจำเป็นไง เวลาเราน้อย เห็นไหม

มีคนบ่นมาก เราปากกัดตีนถีบ เราต้องหาเงินหาทอง เราไม่มีเวลามาโอบมาอุ้มหรอก

แต่เวลามันทุกข์มันยากขึ้นมา มันทุกข์มันยากในหัวใจนะ

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ รื้อสัตว์ขนสัตว์ก็รื้อหัวใจของคนไง แต่เราเกิดมาในสังคมความเป็นมนุษย์ไง มีธาตุ ๔ และขันธ์ ๕ ธาตุ ๔ เรามีร่างกาย ขันธ์ ๕ คือความรู้สึกนึกคิด เราต้องเสมอกับสังคม สังคมเขาคือมีสิ่งใด เราจะเสมอกับสังคมอย่างนั้น มันก็เป็นเรื่องจริง มันเป็นเรื่องจริงทางโลกที่เรามีการแข่งขันไง

คอมมิวนิสต์ คอมมิวนิสต์ที่ล่มสลายไปเพราะอะไรล่ะ เพราะว่าเสมอภาคๆ รัฐบาลเป็นผู้ดูแลค้ำจุน มันไม่มีการขวนขวาย ไม่มีการแข่งขัน จนมันล่มสลายไป

ทุนนิยม ทุนนิยมมันต้องมีการแข่งขัน ถ้ามีการแข่งขันแล้วมันจะเกิดการพัฒนา การพัฒนาเกิดปัญญา

นี่ก็เหมือนกัน เวลาสังคม สังคมมันต้องมีการแข่งขัน การแข่งขันโดยธรรมาภิบาล วันนี้วันพระๆ วันพระเป็นผู้ที่ประเสริฐๆ ไง มันประเสริฐที่ไหน มันประเสริฐในหัวใจของสัตว์โลก

เวลาคนเกิดมาถ้ามันมีคุณงามความดีในใจนะ ถ้ามีคุณงามความดีในใจนะ มันมองสิ่งใดแล้วมันมีเมตตาธรรม คำว่า “เมตตาธรรมๆ” ในครอบครัวของเราเวลาถ้ามันอบอุ่น เวลามันดีงามขึ้นมา ครอบครัวเรา เรามีความสุข แล้วเวลาหัวใจล่ะ เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมา เรื่องของใจ เรื่องของใจทั้งสิ้นนะ

เราเข้าบ้านเรา เรามีพ่อมีแม่มีพี่มีน้องมีปู่มีย่ามีตามียาย เวลาเข้ามาในหัวใจนะ กิเลสไม่มีพ่อมีแม่มีปู่มีย่ามีหลาน กิเลสมันทิ่มมันแทง มันพลิกมันแพลง มันปลิ้นมันปล้อน ถ้ากิเลสมันดี คนปรารถนาดีต้องเป็นคนดีหมด คนสร้างคุณงามความดีมันต้องเป็นความดีหมด ทำไมมันดีแต่ต้นล่ะ ทำไมมันกลายพันธุ์ล่ะ มันกลายพันธุ์ มันสูญพันธุ์ไปที่ไหนล่ะ ก็นี่ไง ก็กิเลสในใจของคนไง ก็กิเลสในใจของคนมันปลิ้นมันปล้อน มันพลิกมันแพลงนั่นน่ะ

ตั้งใจไว้เลย ตั้งเป้าไว้เลย พระบวชใหม่ทุกองค์จะเป็นพระอรหันต์ทั้งนั้นน่ะ

เวลาถ้ามันตั้งเป้าแล้วมันมีกระทำนะ อยากเป็นพระอรหันต์แล้วปิดเลย ปิดหูปิดตาไม่ต้องไปมองโลกเลย เราดั้นด้นของเราไป เรามีครูบาอาจารย์คอยชี้นำแล้วดั้นด้นของเราไป เวลาภาวนาไป ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี ถ้ามันภาวนาไป ๗ เดือน ๗ ปี ถ้าทำถูกต้องดีงาม เป็นสัมมาทิฏฐิถูกต้องดีงามนะ จะเป็นพระอรหันต์

นี่มันถูกต้องดีงามหรือไม่ล่ะ มันถูกต้องโดยกิเลสไง ถูกต้องโดยความทะยานอยากไง มันถูกต้องโดยการพลิกแพลง กิเลสมันพลิกแพลงไง แล้วไม่มีสิ่งใดเลย ถ้าในหัวใจมันไม่พร้อมไง หัวใจไม่พร้อมเพราะอะไร เพราะกิเลสตัณหาความทะยานอยาก นี่จริตนิสัย

เวลาครูบาอาจารย์ท่านพิจารณาของท่านนะ ตั้งแต่หลาน ตั้งแต่พ่อ ตั้งแต่ปู่ ตั้งแต่ย่ามัน เวลาฆ่าเป็นชั้นๆ ขึ้นไป โลกฟังไม่รู้เรื่องนะ โลกมันบอกกิเลสคือกิเลสไง แต่กิเลสมันมีครอบครัวไง ครอบครัวของมาร ครอบครัวมารมันอยู่ในใจของคน ดูสิ เวลาปุถุชน กัลยาณชน ปุถุชนกับกัลยาณชนมันยังไม่เข้าใจเลย

ถ้ามันเข้าใจนะ เวลาคนภาวนาปากกัดตีนถีบเพื่อต้องการเอาความสงบของใจ เพื่อหาความสงบ นี่ไง ปุถุชน ปุถุชนคือคนหนา หนาโดยอะไร รูป รส กลิ่น เสียงเป็นบ่วงของมาร เป็นพวงดอกไม้แห่งมาร เป็นเราเป็นเขาทั้งสิ้น สรรพสิ่งนี้ทุกอย่างยึดมั่นถือมั่นน่ะ แล้วยึดมั่นถือมั่น ใครไปยึดล่ะ กิเลสมันยึดหรือ โลกมันยึดหรือ กิเลสในใจของคนต่างหาก วัตถุมันยึดใคร

รถซื้อมาคันละกี่ล้านก็แล้วแต่ มันซื่อสัตย์กับเจ้าของมันไหม มีแต่เจ้าของไปคอยเช็ดคอยถู คอยดูคอยแลมันนั่นน่ะ มันทำอะไรให้เจ้าของมันบ้าง นี่ไง แต่คนไปติดมันต่างหาก ความเป็นเจ้าของเรา เราไปยึดมันว่าของเรา ของเรา ของเรา นี่ก็เหมือนกัน เวลามันมีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมา กิเลสมันปั่นมันป่วนในใจ

เวลาตั้งใจที่ประพฤติปฏิบัติ เราตั้งใจ ตั้งใจเจตนาที่ดี พอตั้งใจแล้วล้มแล้ว แล้วต่อไปนี้เป็นเรื่องของกิเลสทั้งนั้นน่ะ มันพลิกมันแพลง เป็นอย่างนั้นๆๆ แล้วเชื่อไปหมดเลย แล้วมันสงบไหม สงบมันเป็นความจริงไหม นี่ต้นคด ต้นคด ปลายตรงไม่มี ต้นก็ทำไม่เป็น

เวลาครูบาอาจารย์ของเรา หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านมีบุญญาธิการ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีบุญญาธิการ คำว่า “มีบุญญาธิการ” ท่านจะรู้ว่าหัวใจถ้ามันจะสงบมันมาจากอะไร แล้วเราก็ไปอาศัยสิ่งนั้นเพื่อคุ้มครองดูแลใจให้เราสงบ แต่มันมองไม่เห็นไง มันไม่ยอมรับไง

เหมือนพ่อแม่ พ่อแม่สอนลูก สอนให้เป็นคนที่ดี พ่อแม่สอนให้กินข้าวให้เรียบร้อย กินข้าวแล้วรู้จักเก็บรู้จักล้าง รู้จักทำความสะอาดในบ้าน นี่พ่อแม่สอนอะไร แล้วเป็นความดีอะไร เช็ดบ้านถูบ้านมันเป็นความดีหรือ เป็น เป็นเพราะว่าสิ่งที่เราทำมันดัดจริตนิสัย มันดัดให้คนคนนั้นเป็นคนที่สะอาด คนคนนั้นเป็นคนที่รับผิดชอบ คนคนนั้นเป็นคนที่คุ้มครองดูแล คนคนนั้นเป็นคนดีขึ้นมา การฝึกหัดมันต้องมีวิธีการฝึกหัดขึ้นมา

หัวใจก็เหมือนกัน หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านมีบุญญาธิการ ท่านถึงวางข้อปฏิบัติไว้ พอเราไปฟังนะ โอ๋ย! มีแต่ข้อวัตร มีการปฏิบัติ มันวุ่นวายไปหมดเลย สู้ธรรมชาติของจิต จิตมันมีอยู่แล้ว มันเป็นสมาธิโดยธรรมชาติ อยู่เฉยๆ มันเป็นเอง ชอบ ชอบที่ไม่ต้องทำอะไรเลยแล้วเป็นพระอรหันต์ ชอบ แล้วมันก็มีคนมาล่อมาหลอก นู่นก็ง่าย นี่ก็ง่ายหมดเลย ไอ้นั่นมันอัตตกิลมถานุโยค มันทำให้ลำบาก โอ๋ย! มันวุ่นมันวาย มันไม่ดีเลย เรามานั่งกันเฉยๆ

นี่ไง ต้นมันคด

ต้นมันคดเพราะมีความโลเล ต้นมันคดเพราะกิเลสมันดื้อด้าน พอกิเลสมันดื้อด้านมันก็แสวงหาสิ่งที่มันจะทำให้ได้ง่าย พอสิ่งที่ทำง่าย แต่คนที่มีบุญญาธิการเหมือนพ่อแม่ พ่อแม่แต่ละคนจะอบรมลูกมาแต่ละคนมันใช้เวลาเท่าไร ครูบาอาจารย์ท่านถึงมีข้อวัตรปฏิบัติขึ้นมาให้เป็นเครื่องอยู่ของใจ เครื่องอยู่ของใจนะ อย่างน้อยก็ต้องให้อยู่ในข้อประพฤติปฏิบัติเหมือนลูก อย่างน้อยก็ให้ล้างจาน อย่างน้อยก็ให้เก็บเสื้อเก็บผ้า เก็บที่นอน อย่างน้อยก็รักษาบ้านตัวเองไว้ให้ดี คอยดูแลขโมยอย่าให้มันเข้ามา อย่างน้อย เห็นไหม แล้วมันเป็นอะไรล่ะ มันเป็นเด็กที่ดี

นี่ก็เหมือนกัน ข้อวัตรปฏิบัติ ข้อวัตรปฏิบัติที่เราทำๆ มันของของหัวใจนะ

หลวงปู่มั่นท่านพูดกับหลวงตา “ผู้ที่มีพรรษามากไม่ต้องขึ้นมานะ ให้ผู้บวชใหม่ขึ้นมาๆ มันจะได้มีข้อวัตรติดหัวใจมันไป มันจะได้มีข้อวัตรติดหัวใจมันไป”

เหมือนพ่อแม่สอนลูก รู้จักเก็บ รู้จักกวาด รู้จักทำความสะอาด เวลามันโตไปแล้วมันจะไปคบเพื่อนมัน มันก็ไม่อายเพื่อนมัน มันทำได้เท่ากับเพื่อนมัน

นี่ก็เหมือนกัน มีข้อวัตรปฏิบัติขึ้นมาให้เป็นเครื่องอยู่ของใจ ให้ใจมันซื่อตรงกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซื่อตรงกับธรรมและวินัย ให้มันซื่อตรงเพราะอะไร เพราะข้อวัตรปฏิบัติมันก็เกิดมาจากวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสขิยวัตร เสขิยวัตรมันก็อยู่ในปาฏิโมกข์ แล้วอยู่ในปาฏิโมกข์แล้วเป็นกฎเป็นวิธีการที่จะทำ แล้วทำอย่างไรล่ะ

หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านสอน ถ้ามันมีการกระทำ เครื่องอยู่ของใจๆ เราก็ฝึกหัดขึ้นมา การฝึกหัดนั้นฝึกหัดเพื่ออบรมหัวใจ การฝึกหัดนั้น ฝึกหัดเพื่อการเป็นพื้นฐานของการจะทำสมาธิ ของการทำความสงบของใจ

เพราะเริ่มต้นก่อนจะทำความสงบ ก่อนจะทำความสงบจิตมันฆราวาสธรรมๆ มันเป็นฆราวาส มันคุ้นชินกับความเคยชิน ความเคยชินบังคับไม่ได้นะ สิทธิเสรีภาพนะ เดี๋ยวฟ้องศาลโลกเลย สิทธิมนุษยชนจะมาบังคับกันได้อย่างไร

นั่นไงมันไปนู่น ทั้งๆ ที่เขาจะมาดูแลหัวใจนั่นน่ะ

นี่เราฝึกหัดๆ ขึ้นมา บวชปั๊บจะเป็นพระอรหันต์ จะปฏิบัติให้ได้ แต่เวลามาเจอข้อวัตรปฏิบัติมันไม่ยอมรับ

สิ่งที่เป็นข้อวัตรปฏิบัตินั้นเขาจะฝึกหัดหัวใจนั่นแหละ เขาจะฝึกหัดให้หัวใจมันลงกับธรรมะ พอลงกับธรรมะขึ้นมานะ พอมันลงกับธรรมะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พอลงกับธรรมะมันจะชื่นชม มันจะเคารพ มันจะบูชา เคารพบูชาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แล้วเวลาเคารพแล้วเพราะอะไร

เพราะเวลาคนที่ประพฤติปฏิบัติไปแล้ว เมตตาธรรม เมตตาธรรม ปัญญาธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านคุ้มครองดูแล สิ่งที่เกิดขึ้น ดูสิ สังคมร่มเย็นเป็นสุขอยู่นี่ วัฒนธรรมของเรานี้มันมาจากไหน

ชาติ ศาสนา มันมาจากการกล่อมเกลาของศาสนา มันเป็นประเพณีวัฒนธรรมของเราขึ้นมา ให้พ่อแม่มีหน้าที่ความเป็นพ่อแม่

พ่อแม่ถ้าไม่มีสติปัญญาเป็นพ่อแม่ มันก็เป็นลูกเป็นหลานให้ลูกมันโขกสับหรือ พ่อแม่ก็ต้องมีปัญญาของพ่อแม่ ปู่ย่าตายายผ่านโลกมามากก็เป็นหลักชัยในบ้าน เพราะผ่านโลกมา ผ่านประสบการณ์มา ลูกก็มีหน้าที่ของลูก มันทำตามหน้าที่ ถ้าทำตามหน้าที่ความถูกต้องดีงามขึ้นมาด้วยสติด้วยปัญญา ครอบครัวก็มีความสุข นี่วัฒนธรรมประเพณีของชาวพุทธ

นี่พูดถึงว่า เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนานะ พระพุทธศาสนานี้เลอค่ามาก เวลาหลวงปู่มั่นท่านเทศน์ที่วัดเจดีย์หลวง หลวงปู่มั่นท่านเทศน์มุตโตทัยๆ มุตโตทัยก็หัวใจของสัตว์โลก หัวใจของคน

ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามันย้อนเข้ามาที่ใจของคน แต่คนหาใจไม่เจอ เห็นแต่เงา ความรู้สึกนึกคิดนี้ไม่ใช่ใจ ความรู้สึกนึกคิดนี้เกิดจากใจ เราพยายามทำความสงบกัน เราพยายามทำความสงบกันก็จะผ่านความรู้สึกนึกคิดนี้เข้าไปเป็นสักแต่ว่ารู้ ธาตุรู้ที่ธาตุรู้แท้จริงอันนั้น ธาตุรู้ที่แท้จริงอันนั้นเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ มันมีเวรมีกรรม สร้างคุณงามความดี มันถึงได้มาเกิดเป็นเราอยู่นี่ไง แต่เราไม่รู้โดยสัจธรรมไง เรารู้ทางวิทยาศาสตร์ รู้ทางการแพทย์ไง

ทางการแพทย์มันก็บอกว่า ไข่ของแม่ สเปิร์มของพ่อ นี่มันเกิดขึ้นมา แต่ธรรมะบอกว่าจิตปฏิสนธิที่อุบัติขึ้นในไข่ เวลาจิตมันหยั่งลง นั่นน่ะกรรมของสัตว์ กรรมของสัตว์ที่ไหน

ในทางวิทยาศาสตร์ เวลาท้องนะ ให้แม่มีอารมณ์ดีๆ ให้แม่อย่าโกรธอย่าขึง

นั่นมันช้าไป มันช้าไปตั้งแต่จิตหยั่งลงสู่ไข่ อุบัติขึ้น นั่นเกิดแล้ว พอเกิดแล้วมันก็พัฒนาของมันขึ้นมา

นี่พูดถึงว่า เรามีบุญกุศล เราได้เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์แล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ก็รื้อสัตว์ขนสัตว์ตั้งแต่ปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิจิตเพราะจิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ มันเป็นต้นเหตุ มันเป็นต้นเหตุ มันมีอวิชชา เพราะความไม่รู้ตัวมันเองมันถึงได้มาเกิด เวลาจะทำขึ้นมา เราทำความสงบของใจเข้ามา ความรู้สึกนึกคิด เพราะมันเกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์มันมีธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ มนุษย์มีร่างกายและมีจิตใจไง

เทวดาเขาเป็นกายทิพย์ๆ เขาก็มีแต่หัวใจไง เขาถึงไม่กินอาหารอย่างเรานี่ไง เขากินวิญญาณาอาหาร กินอาหารทิพย์ไง เวลาพรหมเขาผัสสาหารๆ

เกิดเป็นพรหมอยู่อย่างไร ชีวิตอย่างไร ใช้อาหารอย่างไร อยู่อย่างไร เป็นเทวดาอยู่อย่างไร ทำอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร เป็นมนุษย์ หิว โรคหิวมันบีบคั้น โรคหิวเป็นโรคประจำธาตุขันธ์ โรคหิวเป็นโรคธรรมชาติ คนเกิดมามีหิวมีกระหาย หิวจนตาย

แต่ถ้าคนมีสติปัญญานะ ครูบาอาจารย์ของเรา เวลาบิณฑบาตมาแล้วเลี้ยงชีพโดยชอบ ยังอดนอนผ่อนอาหารนะ กินแต่น้อย กินพอดำรงชีพ แล้วถ้ากิเลสมันหนา ธาตุขันธ์ทับจิตๆ ท่านก็พยายามผ่อนอาหาร อดอาหาร

เพราะอาหารมันเป็นคุณต่อคนที่มีสติปัญญา แล้วใช้ดำรงชีพ มันเป็นโทษกับกิเลสที่อยากกิน เป็นโทษกับกิเลสที่มันมักมากอยากใหญ่ กินจนพุงพะโล้เป็นโรคอ้วน ก็ต้องไปออกกำลังกาย ไปตัดลำไส้นะ ตัดลำไส้ให้มันเล็กลง กินได้น้อย มันโง่ขนาดนั้นน่ะเพราะมันไม่มีธรรมในใจ

แต่นี่ธรรมในใจ นี่ไง เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนาไง มันเป็นเรื่องการอยู่การกิน การอยู่การกินมันก็การดำรงชีพไง แต่ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็บวชมาแล้วเลี้ยงชีพด้วยปลีแข้ง บิณฑบาตมาแล้ว ก่อนจะฉันปฏิสังขาโย คำว่า “ปฏิสังขาโย” ถ้าไม่ปฏิสังขาโย ของที่มันบูดมันเน่า ของมันเสียหาย คนยิ่งใหญ่ เวลากินกินของบูดเน่าทั้งนั้นน่ะ แต่กินก่อนที่มันจะเน่า เน่าแล้วมันจะไม่กิน

ถ้ามันมีสติปัญญามันสังเวช ธรรมสังเวชนะ เวลาเกิดคุณธรรมในใจมันเกิดความสังเวชโดยธรรม น้ำหูน้ำตาไหลนะ นั่นแค่ธรรมสังเวช ธรรมสังเวชเกิดจากสติปัญญาที่มันรู้เท่าทันกับกิเลสของตน แต่ยังไม่เห็นกิเลสนะน่ะ ธรรมสังเวชมันเกิดเวลาทำความสงบของใจแล้วมันเกิดความสังเวช เราเห็นไหม เห็นการกระทบการเทือนกัน เราเห็นแล้วเราสังเวช น้ำหูน้ำตาไหลนะ นี่มันเกิดความสังเวช

นี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราพิจารณาแล้วมันเกิดความสังเวช มันจะสำรวมระวัง มันจะพยายามค้นคว้าหาใจของตน ทำสัมมาสมาธิ ทำจิตให้สงบระงับเข้ามา พอจิตสงบเข้ามา ถ้าจิตสงบระงับเข้ามา มันเป็นสิทธิ์ของจิตดวงนั้น มันเป็นสิทธิ์ เป็นอภิสิทธิ์ ความรู้จริงในใจของตน แล้วความรู้จริงในใจของตนเห็นไหม  มันรู้แค่นี้แหละ มันยังเห็นคุณค่าเลย

แล้วถ้ามันยกขึ้นสู่วิปัสสนาได้นะ ปัญญาการรู้แจ้งในจิต ในจิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ปัญญารู้แจ้งในอวิชชา ในความไม่รู้ไง

จิตมันไม่รู้ ธาตุมันไม่รู้ แต่นี่ธาตุรู้ ธาตุที่มันมีความคิด ธาตุที่มันมีความคิดเวลามันย้อนกลับทวนกระแสเข้าไปเป็นภาวนามยปัญญา ปัญญาเกิดจากการภาวนา มันมหัศจรรย์น่ะ มันมหัศจรรย์

เวลาหลวงตาท่านสิ้นกิเลส เวลากราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบแล้วกราบเล่า มันขอบบุญขอบคุณ กราบแล้วกราบเล่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้ได้อย่างไร

รู้ได้อย่างไร เราก็รู้ เราก็รู้ รู้เพราะอะไร รู้เพราะหลวงปู่มั่นเป่ากระหม่อมมา หลวงปู่มั่นวางข้อวัตรปฏิบัติขึ้นมาให้พยายามฝึกหัดดำรงตนให้จิตมันเข้มแข็งขึ้นมา ให้จิตมีสติปัญญาใคร่ครวญเข้ามา นี่เรามีครูมีอาจารย์นะ

เกิดมาสังคมใดก็แล้วแต่ เขาพยายามโฆษณาของเขาว่าของเขาดี ใครๆ ก็โฆษณาว่าของเขาดี สินค้าใครก็ว่าสินค้าของเขาดีทั้งสิ้น แต่เราเป็นผู้ใช้ เราเป็นผู้ใช้เองว่าจริงหรือไม่จริง จริงหรือไม่จริงก็ถามตัวเองสิ งงไหม สงสัยไหม ลังเลไหม ทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นความจริงๆ มันลังเลได้อย่างไร รู้เองเห็นเองสดๆ ร้อนๆ

หลวงตาท่านเทศน์ประจำนะ ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสดๆ ร้อนๆ ออกจากเตามานี่ โอ้โฮ! ยังร้อนๆ อยู่เลย ไม่มีกาลไม่มีเวลา ผู้ใดรู้ ผู้นั้นรู้ประจักษ์ในใจของตน มันจะเป็นความจริงขึ้นมา นี่ไง ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงประเสริฐไง

พระพุทธศาสนามีค่ามาก แต่เราใช้กันแค่เปลือกนอก เป็นประเพณีวัฒนธรรม แล้วก็เอาประเพณีวัฒนธรรมมาคุยอวดว่าข้านี้ยิ่งใหญ่ ว่าข้านี้ทำแล้วประสบความสำเร็จ

เอ็งไม่ต้องอวดหรอก เขาก็ทำกันเอง รัฐบาลฟื้นฟูประจำ ประเพณี เวลาเข้าพรรษา ออกพรรษา เขาพยายามฟื้นฟู ฟื้นฟูทำไม ฟื้นฟูเพื่อให้ประชาชนมีศีลมีธรรม มีศีลมีธรรมแล้วไม่สร้างความเดือดร้อน ในครอบครัวก็ไม่เดือดร้อน ในสังคมก็ไม่เดือดร้อน ในประเทศชาติก็ร่มเย็นเป็นสุข รัฐบาลเขาก็ปรารถนาให้พวกเรามีความสุข แล้วเวลามีความสุข กิเลสมันยุมันแหย่ จะเอาอย่างนั้น จะเอาอย่างนี้ เอาอะไร เอ็งทำจริงหรือเปล่า มันได้จริงหรือเปล่า

ถ้ามันได้จริง ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก นี้คือคุณธรรมในใจ

เราฝึกหัดเพราะเรามีหัวใจไง เรามีจิตวิญญาณไง เพราะจิตวิญญาณนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เพราะจิตวิญญาณของเรา นาย ก. นาย ข. นาย ง. สมมุติทั้งนั้นน่ะ แค่ชาตินี้ แต่ก่อนที่มันจะเป็นชาตินี้มันมาจากไหน มันมีอะไรมา แล้วอยู่ในปัจจุบันนี้มันทำอะไร แล้วตายแล้วจะไปไหน

เวลามันพิจารณาไปแล้ว มันชัดเจนนะ ธรรมะนี้ตอบได้หมด มาจากไหน บุพเพนิวาสานุสติญาณ อนาคต จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ ทำลายอวิชชาสิ้นไปในภพชาตินี้ เอวัง